วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

สปา สครับขัดผิวสวย ง่ายๆด้วยผลไม้

ผลไม้

ภาพประกอบจาก www.thaigoodview.com

        "ผู้หญิงอย่าหยุดสวย"คำนี้คงเป็นสโลแกนของใครหลายคน งั้นลองหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์กันดีกว่า ก็ไอเดียทำสวยด้วยมือเราไงละ ถ้าคิดไม่ออกลองนึกถึงการทำสปาที่ร้านดูว่าดีมั้ย แล้ววันหยุดหันมาทำสปาขัดหน้า ขัดตัว ดู รับรองสวยสั่งได้แน่นอน
                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                          ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าโดยเฉลี่ยร่างกายคนเรามีการผลัดเซลล์ผิวทุก 28 วัน  ดังนั้นการขัดผิวเดือนละ 2 ครั้ง นั้นละกำลังดี ผิวหน้าและผิวกายไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เดียวกัน  ที่ใช้สำหรับผิวหน้าต้องไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมสครับที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ที่มีความเป็นกรดสูงสำหรับคนผิวแห้ง

        วัตถุดิบทำสปาที่บ้าน

  1.สครับนุ่มๆมะเขือเทศ พืชที่ไดรับการันตีเรื่องความกระจ่างใส เนียนนุ่ม เหมาะกับทุกสภาพผิว สามารถผสมกับวัตถุดิบหลายอย่างได้อย่างลงตัวเพื่อเพิ่มความงามให้สาวๆ

  2.สครับเส้นใย มะขามเปียกหรือสับปะรด ผลัดเซลล์ผิวได้ดีที่เดียว เพราะมีวิตามินซีเยอะ  ส่วนเรื่องของความสะอาดไม่ต้องพูดถึง สะอาดจนขี้ไคลเกลี้ยงเกลาเลยทีเดียว แต่ผลไม้สองชนิดนี้มีความเป็นกรด สาวผิวแห้งควรระวัง หากคุณเป็นคนที่ชอบสคับแต่ผิวแห้งเราแนะนำส้มเช้งก็ให้คุณสมบัติที่ไม่ต่างจากผลไม้ทั้งสองชนิดนี้

  3.ใยบวบ ช่วยในการขัดผิวตัวได้ดีเยี่ยม แต่มะละกอจะเหมาะกว่าเพราะมีความละเอียดอ่อนนุ่มและมีวิตามินซี

  4.มะนาว
 ช่วยในเรื่องของผิวที่หยาบกร้านบริเวณข้อศอก ส้นเท้าให้นุ่มขึ้น แต่ถ้าจะมาใช้กับใบหน้าก็ไม่ว่ากัน ถ้ากลัวแสบแนะนำ

  5.แตงกวาจะเหมาะกับคนผิวแห้ง ช่วยให้ใบหน้าคุณเปล่งปลั่งสดชื่นขึ้น ไม่แสบด้วย

  6.สุดท้ายมะพร้าว มีน้ำมันช่วยบำรุงผิวให้ผลลัพที่อ่อนนุ่ม ๆไม่เหมาะกับสาวผิวมัน

         เมื่อรู้วัตถุดิบที่ใช้ทำสครับไปแล้ว ลองเลือกที่ถูกใจและเหมาะกับผิวที่สุดดูคะ ลักษณะของสคับที่ดี ต้องไม่ข้นและเหนียวจนเกินไป ต้องหนืดเล็กน้อยจับตัวอยู่บนผิวได้สะดวกแก่การขัด


สปา สครับ ขัดผิว

ภาพประกอบจากwww.saboothailand.com
บทความดีๆน่าอ่านมากมาย

บำรุงผิวสวย ด้วยเมนูผลไม้ปั่น

บำรุงผิวสวย ด้วยเมนูผลไม้ปั่น

ผลไม้เป็นอาหารที่คนรักสุขภาพและความงามจะขาดเสียมิได้ แต่การกินผลไม้เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งกินสดๆ ปั่น หรือคั้นน้ำ   ผลไม้แต่ละชนิดมีวิตามินที่มีประโยชน์แตกต่างกันไปค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะเลือกกินกันอย่างที่เราชอบเป็นอย่างๆไปแต่วันนี้มีอีกทางเลือกมาให้คนรักผลไม้ได้อร่อยกันไปอีกแบบ ด้วยสูตรของการผสมผสาน ที่ช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหาร ให้ไ้ด้รับหลายๆอย่างพร้อมกันในแก้วเดียว วิธีทำง่ายนิดเีดียว คือเอาทุกอย่างลงเครื่องปั่น แล้วก็ปั่น ปั่น ปั่น กันเลยค่ะ
แครอท+ขิง+แอปเปิ้ล= เสริมภูมิคุ้มกันและล้างระบบภายในร่างกาย
แอปเปิ้ล+แตงกวา+ขึ้นฉ่าย= ป้องกันมะเร็ง ลดโคเลสเตอรอลปรับอาการปั่นป่วนในท้องและอาการปวดศีรษะ
มะเขือเทศ+แครอท+แอปเปิ้ล= บำรุงผิวและช่วยให้กลิ่นปากสดชื่น
มะระ+แอปเปิ้ล+นม= ระงับกลิ่นปาก และลดความร้อนภายในร่างกาย
สับปะรด+แตงกวา+กีวี= บำรุงผิวพรรณ
ลูกแพร์+กล้วยหอม= ปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด
แครอท+แอปเปิ้ล+ลูกแพร์+มะม่วง= ลดพิษและความร้อนในร่างกาย ลดความดันเลือด และต้านมะเร็ง
แตงไทย+องุ่น+แตงโม+นม= อุดมด้วยวิตามินซี และวิตามินบี2 ที่จะช่วยให้เซลล์ทำงานแข็งขันขึ้น และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแกร่งด้วย
มะละกอ+สับปะรด+นม= อุดมด้วยวิตามินซี วิตามินอี ธาตุเหล็ก ซึ่วจะช่วยบำรุงผิวพรรณและกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย
แกล้วยหอม+สับปะรด+นม= อุดมด้วยวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายละป้องกันท้องผูกผิวสวย แถมด้วยสุขภาพดีด้วยจ้า
อย่ารอช้าอยู่เลยน่ะ

บทความดีๆน่าอ่านมากมาย

หน้าสวยใส ด้วยผลไม้ไทย

ผลไม้



หน้าสวยใส ด้วยผลไม้ไทย (Momy Pedia)
เขียนโดย  Piper

          อยากมีใบหน้าที่ขาวใสปล่อยให้อายุเป็นเพียงตัวเลข อ่านทางนี้
          ถ้าอยากมีใบหน้าที่ขาวใสแล้วปล่อยให้อายุเป็นเพียงตัวเลขล่ะก็ ลองนำวิธีต่อไปนี้ไปใช้ดูแล้วจะรู้ว่าของดีๆ มีอยู่ใกล้ตัว

          ฝรั่ง 

          ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง นอกจากจะหาได้ง่ายและราคาไม่แพงแล้ว ใครจะรู้ว่านำมาพอกหน้าได้

          วิธีง่ายๆ นำเนื้อฝรั่ง 1 ลูกมาปั่น แล้วเอาเฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อมาพอกหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออก

          สรรพคุณ ช่วยให้ใบหน้าที่หมองคล้ำกลับมาสดใสยิ่งขึ้น

          ส้ม 
          นอกจากจะอร่อยและราคาถูกแล้ว ยังเป็นอาหารอย่างดีสำหรับผิวอีกด้วย เนื่องจากน้ำส้มมีวิตามินซีสูง จึงช่วยให้ผิวชุ่มชื่น กระชับผิว และไม่ทำให้เกิดสิว

          วิธีง่ายๆ นำส้มมาคั่นน้ำประมาณครึ่งถ้วยผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออก

          สรรพคุณ ทำเป็นประจำสัปดาห์ 1-2 ครั้ง จะช่วยให้ใบหน้าเรียบเนียนยิ่งขึ้น

          มะละกอ 
          สำหรับคนที่ชอบบีบแกะสิวจนทำให้เกิดจุดด่างดำบนใบหน้า มะละกอจะช่วยละลายสิ่งสกปรกออกจากผิวและทำให้ใบหน้าสดใส

          วิธีง่ายๆ นำมะละกอสุกมาบดให้ละเอียด พอกหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วจึงค่อยล้างออก

          สรรพคุณ ช่วยป้องกันการอักเสบของสิวและช่วยลดเลือนจุดด่างดำที่เกิดจากสิว


          ที่สำคัญผลไม้ที่นำมาพอกหน้าจะต้องสดใหม่และใช้ครั้งเดียวจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นนะจ๊ะ


บทความดีๆน่าอ่านมากมาย

ผิวสวยด้วยผลไม้ 9 อย่าง

คุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการผิวสวยใช่หรือป่าวคะ วันนี้จะพาทุกๆท่านไปพบกับผลไม้ 9 อย่างที่ทำให้ผิวสวยค่ะ เชื่อไหมคะว่าการที่เราเลือกกินผลไม้บางอย่างนั้น นอกจากอร่อยแล้วยังช่วยบำรุงผิวของเราได้ด้วย อยากรู้แล้วหล่ะสิคะว่ามีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ


orange
1 ส้ม
ส้มซึ่งมีหลายชนิดและเลือกรับประทานได้ ผลที่มีรสเปรี้ยวหรือหวาน มักจะมีแคลเซียม โปแทสเซียม ไวตามินเอ และไวตามินซี มากเป็นพิเศษซึ่งทำให้ส้มนั้น อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสดูอ่อนไวตลอดเวลา

lemon
2 มะนาว

นับเป็นผลไม้ที่มีคุณค่า นิยมใช้เป็นเครื่องปรุงรส นอกจากนี้ยังถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการและทางการแพทย์ด้วย ซึ่งมะนาวนั้นอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิว และยังช่วยทำความสะอาดตับซึ่งทำหน้าที่กำจัดของเสียออกจากร่างกายได้อีกด้วย

Guava
3 ฝรั่ง

ฝรั่ง ขีดมีวิตามินซีสูงถึง180 มิลลิกรัม วิตามินซีมีบทบาทในการสร้างคอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าของคุณเต่งตึงไม่แก่ก่อนวัยซึ่งคอยบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือคอลลาเจนตัวเดียวกับที่ทำให้หน้าสาวๆอย่างเราเต่งตึงนี่แหละค่ะ นอกจากนี้น้ำต้มผลฝรั่งตากแห้ง มีฤทธิ์แก้คออักเสบ เสียงแห้งด้วยค่ะ
banana
4 กล้วย

กล้วยทุกชนิดนั้นดีต่อสุขภาพแต่แนะนำให้ทานกล้วยไข่ค่ะ ซึ่งกล้วยไข่นั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระหรือเบต้าแคโรทีนมากกว่ากล้วยอื่นๆเป็นพิเศษค่ะ ซึ่งช่วยทำให้ผิวนั้นไม่เหี่ยวย่นไปตามวัยค่ะ 


kiwi
5 กีวี

กีวีซึ่งมีวิตามินอีมากสุดจากการวิจัยค่ะ และประกอบด้วยวิตามินซีที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างคอลลาเจนอีกด้วยค่ะ

carrot
6 แครอต

แครอตนั้นอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูงที่สุดในบรรดาผักสีส้มด้วยกันค่ะ และเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนสภาพเป็นวิตามินเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสายตา ทำให้มองเห็นในที่มืดและรักษาโรคตาฟางได้อีกดวยค่ะ และนอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดจากควันบุหรี่และแสงแดดที่แรงจัดได้ค่ะ

avocado
7 อะโวคาโด

อะโวคาโด้นั้นเมื่อทานเข้าไปจะทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยค่ะ เพราะวิตามินบีในอะโวคาโด จะทำให้ร่างกายเกิดความต้านทานในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการปกป้องผิวหน้าจากมลพิษได้ด้วยค่ะ และการกินอะโวคาโดวันละผลจะช่วยทำให้ร่างกายได้รับวิตามินอีที่ร่างกายต้องการเพียงพอในแต่ละวันค่ะ

tometo
8 มะเขือเทศ

มะเขือเทศมีเบต้าแคโรทีนมากค่ะและสามารถรักษาสิว สมานผิวหน้าให้เต่งตึง โดยใช้น้ำมะเขือเทศพอกหน้า หรือนำมะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ แปะบนใบหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าอ่อนนุ่มได้ค่ัะ มะเขือเทศนั้นมีสรรพคุณทางยาค่อนข้างสูงค่ะ เพราะมะเขือเทศมีวิตามินพี ซึ่งจะช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะจึงสามารถแก้อาการความดัน และมะเขือเทศมีวิตามินเอจึงสามารถรักษาโรคตาได้ค่ะ เท่านั้นยังไม่พอค่ะ ยังมีอีกหนึ่งอย่างคือมีวิตามินซีมากทำให้สามารถป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิดและช่วยการช่วยระบบการย่อยและช่วยการขับถ่ายอุจจาระอีกด้วย

durain
9 ทุเรียน

คงแปลกใจใช่ไหมหล่ะคะทำไมถึงมีทุเรียนติดมาด้วย ซึ่งทุเรียนนั้นถึงแม้อาจจะอ้วนแต่ว่าเนื้อทุเรียนนั้นมีความร้อน ทำให้แก้โรคผิวหนังหรือทำให้ฝี-หนอง แห้งและเนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ขับพยาธิอีกด้วยค่ะ ส่วนเปลือกหนามทุเรียนนั้นนำมาสับแล้วแช่ในน้ำปูนใสสามารถใช้ชะล้างแผลที่เกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง หรือนำมาเผาทำถ่าน บดจนเป็นผง คลุกในน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา ลดความบวมพองจากคางทูมได้ค่ะ และยังสามารถเผาเอาควันไล่ยุงและแมลงได้อีกด้วยค่ะ ส่วนใบของทุเรียนนั้นสามารถใช้ต้มน้ำอาบแก้ไข้ แก้ดีซ่านและเป็นส่วนผสมในยาขับพยาธิด้วยค่ะ สุดท้ายรากจากต้นทุเรียนนำไปตัดเป็นข้อ ๆ ต้มให้เดือด ดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่วงได้ด้วยค่ะ สารพัดประโยชน์จริงเลยค่ะ(แต่บริโภคแต่พอดีนะคะ) ไว้เจอกันอีกคราวหน้านะคะ บายๆค่า

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

บำรุงผิวหน้าตามลักษณะผิว

เลือกสภาพผิว ในแบบที่คุณต้องการแล้วเริ่มลงมือกันเลย
- ผิวหน้าหยาบกร้าน ใช้มะละกอสุกบด 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำผึ้งและนมสดอย่างละ ? ช้อนชา พอกทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก

- ผิวแห้ง ใช้แตงกวาบด 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำผึ้ง ? ช้อนชา และน้ำมะนาว 1 ช้อนชา พอกทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออก
- ผิวเป็นสิว ใช้ขมิ้นผง 1 ช้อนชาผสมกับน้ำผึ้ง ? ช้อนชาและโยเกิร์ต 1 ช้อนชา พอกทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
- ผิวหน้ามีฝ้าและจุดด่างดำ ใช้หัวไชเท้าบด 1 ช้อนชา น้ำผึ้ง ? ช้อนชา พอกทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก
- ผิวรูขุมขนกว้าง ใช้มะเขือเทศบด 1 ช้อนโต๊ะ ผสมโยเกิร์ตและน้ำผึ้งอย่างละ 1 ช้อนชา พอกทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก

ดูแลผิวหน้าตามวัยที่แตกต่าง

Imageไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยไหนๆ ผู้หญิงเราก็ต้องการที่จะสวยงามอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องผิวพรรณเป็นสิ่งสำคัญมากๆ การดูแลผิวหน้าในแต่ละช่วงอายุมีความแตกต่างกันไปตามสภาพของผิวที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาค่ะ ความชุ่มชื้น ความเนียนใส หรือความแข็งแรงของผิว การใช้ผลิตภัณฑืที่เคยใช้เมื่อสมัยยังเป็นวัยแรกรุ่นอาจไม่เหมาะกับกับเราเมื่ออายุมากขึ้น งั้นมาดูว่าแต่ละช่วงอายุเราควรดูแลผิวเราแบบไหนกันค่ะ

วัย20 ขึ้นไปผิวพรรณช่วงนี้เป็นช่วงที่เปลี่ปลั่ง และงามที่สุด ปัญหาสิวหรือหน้ามันในช่วงวัยรุ่นจะไม่ตามมากวนใจซักเท่าไหร่ เพราะฮอร์โมนในร่างกายปรับเข้าที่แล้ว ยกเว้นก็เพียงบางคนเท่านั้น วัยนี้ควรเลิกใช้โฟมล้างหน้าหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ขจัดความมันบนใบหน้าเมื่อตนเป้นวัยรุ่นได้แล้ว เพราะผิวจะไม่ค่อยมันมากนัก ควรจะล้างหน้าให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิว และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอทั้งกลางวันและกลางคืน ยิ่งถ้าต้องทำงานในห้องแอร์ตลอดวันด้วยแล้วควรจะเติมความชุ่มชื้นให้มากขึ้น และอย่าลืมปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยครีมกันแดดทุกวันด้วยค่ะ นอกจากนี้อาจจะสครับผิวสัปดาห์ละครั้งเพื่อผลัดเซลผิวที่ตายแล้วออกไป เพื่อเผยเซลผิวใหม่ที่เนียนนุ่มค่ะ
วัย 30 ขึ้นไป
หากดูแลผิวอย่างดีมาตั้งแต่ต้น ก็จะสามารถยืดอายุความงามของผิวได้นานขึ้นค่ะ ในวัยนี้ผิวชั้นในจะบางลง ส่วนชั้นนอกจะหนาขึ้น เพราะความสามารถในการผลัดเซลผิวน้อยลงค่ะ ความชุ่มชื้นบนใบหน้าก็ลดลง เริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้าทั้งรอบปาก ร่องแก้ม หน้าผาก และรอบดวงตา บางคนอาจเป้นฝ้า หรือกระ รูขุมขนขยาย ผิวไม่เนียนเรียบเหมือนเมื่อก่อนค่ะ การดูและต้องเอาใจใส่ทั้งภายนอกและภายในด้วยค่ะ อาหารมีส่วนสำคัญมากทีเดียวต่อผิวเราค่ะ การใช้มอยส์เจอร์และครีมกันแดดเป้นสิ่งจำเป็นมากสำหรับสาววัยนี้ค่ะ ควรใช้ไนท์ครีมที่มีความเข้มข้นกว่ากลางวันเพื่อถนอมผิว อาจใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสม AHA หรือมาส์กหน้าด้วยผลไม้หรือโยเกิร์ต และสครับผิวทุกสัปดาห์ก็จะช่วยเร่งการผลัดเซลผิวให้เร็วขึ้นค่ะ ผิวที่มีรูขุมขนกว้างให้ล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติหรือเย็นกว่าเพียงเล็กน้อย และใช้โทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์เช็ดผิวเบาๆ เพื่อกระชับรูขุมขน ส่วนรอบดวงตามีรอยคล้ำหรือมีถุงใต้ตา แสดงว่าต้องการเวลาพักผ่อนให้เพียงพอช่วยได้ด้วยการนำถุงชาหรือแตงกวาฝานบางๆ มาวางบนเปลือกตา 15 นาทีหรือหาอายเจลมาทาทุกคืนด้วยค่ะ
วัย 40 ขึ้นไป
เป้นวัยที่ผิวยืดหยุ่นน้อยลง ต่อมไขมันผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวน้อยลง ผิวแห้งกร้านและมีริ้วรอยลึกกว่าเดิม ฮอร์โมนมีความเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเนื่องจากเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน จึงอาจไปกระตุ้นให้เกิดกระ ฝ้าขึ้นได้ การดูแลผิวในวัยนี้ก็เหมือนกับวัย 30 ต้องการการบำรุงผิวที่มากขึ้น ดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อนใหเพียงพอ อาจหาเวลาทำสมาธิ เดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์บ้าง
การดูแลผิวควรเริ่มต้นตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ เพื่อยืดอายุผิวของเราให้ยังคงความงามได้นานที่สุดค่ะ เริ่มตั้งแต่อายุยังน้อยนะคะ ดีกว่าให้เกิดริ้วรอย เหี่ยวย่นแล้วค่อยมาแก้ไขทีหลังจะยากกว่าหรืออาจแก้ไขไม่ได้เลยนะคะ

การดูแลผิวหน้าแบบง่าย ๆ ที่บ้าน

การดูแลผิวหน้าแบบง่าย ๆ ที่บ้าน
pic_no_1275__4662t.jpg

เอนไซม์มะละกอผลัดผิว
      การใช้เอนไซม์จากมะละกอช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวหน้า  การพอกมะละกอบดละเอียดบนผิวหน้าในระหว่างอบไอน้ำจะช่วยทำให้หน้าขาว ใส ยิ่งขึ้น
      การเตรียมก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร นำมะละกอสุกมาบดละเอียด  ในขณะที่เตรียมน้ำเดือดเพื่ออบไอน้ำผิวหน้าเมื่อน้ำพร้อมแล้ว  ให้ทามะละกอสุกบนใบหน้า โดยหลีกเลี่ยงรอบดวงตา  ต่อจากนั้นจึงอังหน้ากับชามอ่างภายใต้ผ้าขนหนูตามวิธีการอบไอน้ำผิวหน้าได้เลย
โทนเนอร์น้ำผลไม้
      หลังจากล้างหน้าแล้ว  ตามขั้นตอนจะต้องเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์อีกครั้งเพื่อกระชับรูขุมขน  และปรับสภาพ pH ของผิวหน้า หากเบื่อใช้โทนเนอร์ที่มีขายตามท้องตลาด ผักและผลไม้นั้นมีวิตามินและเอนไซม์ซึ่งช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนเสมอกันทั่วใบหน้าและช่วยขัดผิวได้

      วิธีการทำก็ไม่ได้ยากเช่นกัน  ให้นำผลไม้ที่ชอบ โดยอาจเลือกจากสรรพคุณของผลไม้ นำผลไม้มาประมาณ 50 กรัมต่อครั้ง ล้าง  เช็ดให้แห้ง  ปอกเปลือก แล้วปั่นด้วยเครื่องปั่นหรือบดให้ละเอียด เติมน้ำกลั่นบริสุทธิ์ลงไปประมาณ 25 มิลลิตร ทิ้งไว้สักครู่หนึ่ง แล้วจึงใช้ผ้าขาวบางกรองแยกกากออกไป  เก็บแต่น้ำไว้ใช้

      ข้อควรระวังคือ ต้องทำความสะอาดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ  ที่ใช้ในการทำโทนเนอร์น้ำผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นชาม เครื่องปั่น  มีด  ผ้าขาวบาง หรือแม้กระทั่งมือตัวเองให้สะอาด  มิเช่นนั้นโทนเนอร์น้ำผลไม้ที่ได้ แทนที่จะช่วยทำความสะอาดผิวอาจจะทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองเนื่องจากสิ่งสกปรกตกค้างจากภาชนะเหล่านั้น
สรรพคุณของผลไม้แต่ละประเภท

1.   ว่านหางจระเข้  บำรุงผิว  สำหรับทุกสภาพผิว
2.   แตงกวา  ปรับสภาพผิว เหมาะสำหรับผิวมัน
3.   ฝรั่ง  ขัดผิว  มีส่วนผสมของกรด AHA
4.   ตะไคร้  ทำความสะอาดผิว  สำหรับทุกสภาพผิว
5.   สับปะรด  ขัดผิว  มีส่วนผสมของ AHA
6.   มะขาม  ขัดผิว  ช่วยให้ผิวขาว  เหมาะสำหรับผิวมัน

ไพล และ ผงลูกจันทน์เทศ   ขัดผิว
ส่วนผสมประกอบด้วย   ไพลสด  1  ช้อนโต๊ะ  และ
                           ผงลูกจันทน์เทศ  1  ช้อนชา
         ตัวขัดผิวนี้มีส่วนผสมของไพล  ซึ่งคนไทยถือว่าเป็นยาครอบจักรวาลสำหรับผิว  ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและบำรุงผิว  เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว  เมื่อขัดเสร็จแล้วผิวจะมีกลิ่นเผ็ดร้อนนิดๆ
         ล้างไพลให้สะอาด  เช็ดให้แห้ง  ปอกเปลือก  ปั่นด้วยเครื่องปั่น จากนั้นเทผงลูกจันทน์เทศลงไป  คลุกเคล้าจนเข้ากัน ทาลงบนใบหน้าและขัดเบาๆจนทั่วหน้า ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
น้ำผึ้ง และ แตงกวา  ขัดผิว
ส่วนผสมประกอบไปด้วย   น้ำผึ้ง    8    ออนซ์
                              น้ำมะนาวคั้น    10    หยด
                             แตงกวา    ฝานเป็นแผ่นบางๆ
      น้ำผึ้งทำให้ผิวนุ่มขึ้น  ช่วยลดความระคายเคืองของผิว และบรรเทาอาการอักเสบ  ในขณะเดียวกันน้ำมะนาวช่วยในกระบวนการผลัดผิว
      ล้างหน้าให้สะอาด  ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวเข้าด้วยกัน  ทาลงบนใบหน้าแล้วนวด 15 นาที หลังจากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออก
      เมื่อเสร็จขั้นตอนแรกแล้วให้วางแผ่นแตงกวาบนใบหน้าและลำคอ  แตงกวาจะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกที่ตกค้างออก  ช่วยให้ผิวเย็นและตึง และเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว  ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออก  เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆอีกครั้ง
ขมิ้นพอกผิว
ส่วนผสมประกอบด้วย   ขมิ้นสด 10 กรัม
                           ถั่วเหลือง  15  กรัม
      ขมิ้นเป็นสมุนไพรที่คนไทยรู้จักมีกคุ้นเป็นอย่างดีมีสรรพคุณลดอาการอักเสบและสมานผิว ส่วนถั่วเหลืองมีเอสโตรเจน  โปรเจสเตอโรน  และไฟโตเอสโตรเจน  ที่ช่วยทำให้ผิวขาวและนุ่มขึ้น
      วิธีการเตรียม ให้นำขมิ้นมาล้างและปอกเปลือกออกปั่นให้ละเอียด  หากเป็นสมัยปู่ยาตาทวดเราใช้ครกกับสากบดซึ่งกินเวลานานเกินไป ไม่ทันใจสาวสมัยใหม่ ปัจจุบันใช้เครื่องปั่นจะสะดวกกว่า
      เมื่อปั่นขมิ้นเสร็จแล้วให้พักไว้  นำถั่วเหลืองไปล้างโดยแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ปั่นแล้วนำมาผสมกับขมิ้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน ทาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวด้วยกล้วย
ส่วนผสมประกอบด้วย   กล้วยสุก  ผลขนาดกลาง 2 ผล
                           Wheat  germ  oil  ½ ช้อนชา
                           น้ำผึ้ง  2  ช้อนชา
                           น้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกมะลิ  2  หยด
      ตัวพอกหน้านี้อุดมไปด้วยวิตามิน  เหมาะสำหรับฟื้นฟูสภาพผิว  และทำให้ผิวสดชื่นหลังจากวันอันเหนื่อยล้า  กล้วยอุดมไปด้วยวิตามินเอและโพแทสเซียม  ส่วนน้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกมะลิ ช่วยปรับสภาพผิว  ลดเลือนรอบแผลเป็น และน้ำผึ้ง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิว
      ปั่นกล้วยแล้วใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลงไปคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน  เมื่อเตรียมตัวพอกเสร็จแล้ว  ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดด้วนโทนเนอร์  จากนั้นจึงทาตัว  พอกลงบนใบหน้า ทิ้งไว้ 20 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่นและเช็ดด้วยโทนเนอร์อีกครั้งเพื่อกำจัดตัวพอกที่ตกค้างอยู่ออกให้หมด
น้ำผึ้งและส้มกระชับผิวหน้า
ส่วนผสมประกอบไปด้วย    ส้มหรือส้มจีน   1   ชิ้น
                               น้ำผึ้ง    1    ช้อนชา
                               น้ำมันหอมระเหยดอกลาเวนเดอร์    1    หยด
      เป็นตัวพอกหน้าที่ช่วยให้ผิวนุ่มและสดใสขึ้น  ทำให้ผิวหน้าเต่งตึง เป็นตัวพอกหน้าที่อ่อนโยนต่อผิวสามารถทำได้บ่อยครั้ง  เพื่อปรับปรุงสภาพผิวและช่วยให้จุดด่างดำจางลง
      บิส้มให้น้ำส้มออกมา  ถูส้มให้ทั่วใบหน้า  กรดผลไม้ในส้มช่วยทำความสะอาดผิวและเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว  เมื่อทั่วแล้วให้ใช้ฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำเปียกหมาดๆเช็ดออกเบาๆ
      เมื่อเสร้จขั้นตอนแรกแล้ว  ผสมน้ำผึ้งเข้ากับน้ำมันหอมระเหยดอกลาเวนเดอร์  และทาลงบนใบหน้า นวดเบาๆทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
กล้วยและอะโวคาโดพอกหน้าสำหรับผิวแห้ง

ส่วนผสมประกอบไปด้วย    กล้วยสุกผลเล็ก  1 ผล
                               อะโวคาโดสุกผลเล็ก  1  ผล
                               โยเกิร์ตเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
                              น้ำมันวิตามินอี  2  หยด
      ผลลัพธ์ที่ได้จาก treatment  นี้ คือ หน้าลื่น  เรียบเนียน  และมีกลิ่นหอม
      บดกล้วยและอะโวคาโดเข้าด้วยกันจนข้นและมีสีเขียวผสมโยเกิร์ตและน้ำมันวิตามินอีลงไป  แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
      เมื่อเตรียมตัวพอกเสร็จแล้ว  ล้างหน้าและอบไอน้ำผิวหน้าเพื่อให้รูขุมขนเปิด  หลังจากนั้นจึงทาตัวพอกลงบนใบหน้านวดและทิ้งไว้  15  นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
      ทีนี้คุณก็มีสูตรขัด  พอกครบถ้วน  อีกทั้งเป็นสูตรที่ไม่ยากเย็นอีกต่างหาก  สุดท้ายหน้าจะใสหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าจะมีเวลาในการทำ treatment  อย่างสม่ำเสมอหรือไม่ การดูแลผิวพรรณด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแบบนี้  ต้องอาศัยเวลาและความอดทนค่ะ แต่รับรองได้ว่าผลที่ได้คุ้มค่าแน่นอนต่อการรอคอย
...........................................................................................................................................
ขอขอบคุณบทความจาก    หนังสือกุลสตรี
สนับสนุนโดยผิวพรรณดีมีสง่าราศีกว่าใคร

6 เทคนิคการดูแลผิวหน้าด้วยผลไม้

ทุกวันนี้ผิวโดนทำร้ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด หรือมลภาวะต่างๆ ถึงเวลา Back to the nature เพิ่มเติมความสดใสคืนสู่ผิวกันแล้วนะจ๊ะ สำหรับหนุ่มสาวที่อยากหน้าใสสวยเด้ง ฟังทางนี้ โบว์ มี 6 สูตรมาร์คหน้าง่ายๆ ที่จะทำให้หน้าขาวใส มาฝากกันโดยใช้ผลไม้มาเป็นส่วนประกอบหลัก
1.สูตรหน้าใสด้วยน้ำผึ้งผสมมะนาว
ส่วนผสม:  น้ำผึ้ง 1 ถ้วย
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีทำ: ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวให้เข้ากัน นำมานวดให้ทั่วใบหน้าประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • มะนาว จะช่วยขจัดเซลล์ผิวเช่นเดียวกับครีมที่ผสมกรด AHA ส่วนน้ำผึ้งจะทำให้ผิวหน้านุ่มและชุ่มชื้น
2. สูตรหน้าใสด้วยแอปเปิ้ล
ส่วนผสม: แอปเปิ้ล ปอกเปลือกแล้วคว้านเอาเฉพาะเนื้อ
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ: นำเนื้อแอปเปิ้ลมาปั่นรวมกับน้ำผึ้ง ทาให้ทั่วใบหน้าแล้วนวดเบาๆ ทิ้งไว้ 15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น
  • สูตรนี้จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ทำให้ใบหน้าดูสดใสเปล่งปลั่ง อีกด้วย
3. สูตรกระชับรูขุมขน
ส่วนผสม: กล้วยหอม แตงกวาหรือมะเขือเทศ เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งปอกเปลือก เอาเมล็ดออกให้หมดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
น้ำผึ้งหรือนมเปรี้ยว
วิธีทำ: ใช้กล้วยหอม แตงกวาหรือมะเขือเทศก็ได้ เติมน้ำผึ้งหรือนมเปรี้ยว นำไปปั่นให้ละเอียดจนเป็นเนื้อครีม นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
  • สูตรนี้จะ ช่วยทำความสะอาดใบหน้า และกระชับรูขุมขนและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
4. สูตรครีมทำความสะอาดผิวหน้า (Cleanser)
ส่วนผสม: โยเกิร์ต ½ ถ้วย
น้ำมันดอกทานตะวัน
มะนาวสด1½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ: ผสมโยเกิร์ต น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมะนาวสดให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่วหน้าประมาณ 5 นาที ทุกเช้าและก่อนนอน แล้วจึงล้างออก ด้วยน้ำสะอาด
  • สูตรนี้ใช้ได้กับทุกสภาพผิว จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอีกด้วย
5. สูตรสาวผิวแห้ง มอยเจอร์ไรเซอร์จากกล้วย
ส่วนผสม: กล้วย 1 ผล
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ: บดกล้วยกับน้ำผึ้ง ผสมให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น
  • สูตรนี้เหมาะกับผิวแห้ง
6. สูตรพอกหน้าใสจากแตงกวา
ส่วนผสม: แตงกวา 1 ผล หั่นแตงกวาเป็น ชิ้นบางๆ
ไข่ไก่ 1 ฟอง(ใช้เฉพาะไข่ขาว)
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ: นำแตงกวา ไข่ไก่(ใช้เฉพาะไข่ขาว)และมะนาว ไปปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบปากและดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างหน้าตามปกติ หมั่นทำบ่อยๆ ทุกสัปดาห์ จะช่วยลดความมันส่วนเกิน และยังช่วยกระชับรูขุมขน ผิวหน้าจะ ดูเนียนเรียบและชุ่มชื้น
  • เหมาะสำหรับผิวมันและผิวผสม
Tips:
  • ผลไม้ที่ใช้ต้องสด มีคุณภาพดี
  • ภาชนะที่ใช้ใส่ผลไม้ ส่วนผสมต่างๆ ควรใช้แก้วหรือกระเบื้อง
  • ก่อนทำการพอกหน้า ควรทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาด โดยการอัง ใบหน้ากับไอน้ำและนวดเบาๆ เพื่อเปิดรูขุมขน
  • เวลาพอกหน้าไม่ควรพูดคุยหรืออ่านหนังสือ                                                                                                                                                   บทความดีๆน่าอ่านมากมาย
  • สนับสนุนโดยผิวพรรณดีมีสง่าราศีกว่าใคร

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

มหัศจรรย์แห่งมะเขือเทศ

ช่วยป้องกันมะเร็ง และชะลอการเหี่ยวย่นก่อนวัย
 
            ทุกคนคงรู้จักมะเขือเทศกันดี แต่มาคอยจะรู้ว่ามันอุดมไปด้วยประโยชน์มากมาย เรานำมาทำเป็นอาหารได้หลากหลายรูปแบบ คุณรู้รึเปล่าว่ามะเขือเทศนั้นอุดมด้วยวิตามินป้องกันมะเร็ง อีกทั้งยังทำให้ชะลอการเหี่ยวย่น
           
            จากการศึกษาของ ดร.ไมเคล กาเซียโน นักวิจัยของโรงเรียนสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า การกินมะเขือเทศจะช่วยป้องกันมะเร็ง ต่อมลูกหมากในผู้ชาย และในมะเขือเทศยังมีสารไลโคพิน(Lycopene) อยู่เป็นจำนวนมาก อันเป็นตัวล้างพิษที่สำคัญในร่างกาย
การที่จะใช้ประโยชน์ได้มากที่สุดนั้นต้องปรุงมะเขือเทศให้สุกเสียก่อน

            และในขณะเดียวกันแพทย์ไทยได้เผยเกี่ยวกับประโยชน์ของมะเขือเทศเช่นกันโดยน.พ.ดนัยพันธ์ อัครสกุล  โรงพยาบาลราชวิถี ให้ความรู้ ด้านโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในชายไทยว่าโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งในอดีตเคยเชื่อว่ามีน้อย ได้ขยับขึ้นมาเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 10 ของชายไทย และอันดับ 5 ของชายในกรุงเทพฯ
           
            น.พ.ดนัยพันธ์กล่าวอีกว่า การรับประทานอาหารแบบเศรษฐกิจพอเพียง จะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ โดยอาจจะพบมะเร็งเมื่ออายุ 70-80 ปี   ซึ่งก็จะไม่ทำให้ทรมานกับ    โรคมาก   ส่วนอาหารที่สามารถป้องกันโรคได้นั้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น น้ำเต้าหู เต้าหู้  ผักผลไม้ ที่มีไลโคพีน (Lycopene)เช่น มะเขือเทศสุก เป็นต้น

            นอกจากวิตามินซี ที่มีสูงในมะเขือเทศแล้ว วิตามินอื่นๆ ก็มีอยู่ครบทุกชนิด แถมเปลือกนอกของมะเขือเทศยังมีสารชนิดเดียวกับที่พบในเปลือกองุ่นแดงที่เชื่อว่ามีส่วนช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดได้อีกด้วย ส่วนประโยชน์ต่อคุณผู้หญิง  ถ้าคุณเป็นคนรักสวยรักงาม กลัวรอยเหี่ยวย่นจะมาเยือนเร็วเกินไป ลองนำมะเขือเทศสุกมาฝานเป็นแผ่นบางๆ แล้ววางแปะไว้บนหน้า หรือใช้น้ำมะเขือเทศคั้นสดๆ ทาตามใบหน้า   เชื่อกันว่าจะทำให้ผิวเต่งตึง มีน้ำมีนวลขึ้น          

            ถ้าใครเป็นคนที่ไม่ชอบทานมะเขือเทศได้รู้สรรพคุณแบบนี้แล้ว ทั้งช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกมาก และยังทำให้ผิวสวยด้วย ก็เปลี่ยนใจกลับมาดูแลสุขภาพตัวเองได้แล้วนะครับ    
           

ที่มา:พิทักษ์  ชนะวงศากุล